ทิง-วันนี้เจอนั่น
@thirtytingstory
Followers
7,001
Following
119
Media
56
Statuses
2,579
Explore trending content on Musk Viewer
FELIX
• 185538 Tweets
アザラシ幼稚園
• 132769 Tweets
#Lollapalooza
• 86574 Tweets
#SKZpalooza
• 85436 Tweets
#SmackDown
• 66429 Tweets
STRAY KIDS DOMINATE LOLLA
• 62451 Tweets
残高不足
• 42929 Tweets
ロッキン
• 42187 Tweets
FGOフェス
• 37984 Tweets
#LYKNConcert
• 31458 Tweets
Aerosmith
• 29402 Tweets
Lamar
• 28645 Tweets
オアシス
• 26687 Tweets
Key to Moral Values
• 25416 Tweets
Ram Rahim
• 22365 Tweets
Mahomes
• 21474 Tweets
Blake Snell
• 19875 Tweets
#Shiorin3D
• 19172 Tweets
英霊博装
• 17143 Tweets
オベロン
• 15726 Tweets
淀川花火大会
• 12165 Tweets
Tyreek
• 10937 Tweets
Last Seen Profiles
จิตแพทย์ญี่ปุ่นคนหนึ่งบอกไว้ว่า “เวลารู้สึกแย่ อ่อนแอ ให้เลือกเข้าหาคนที่มีพลังลบสัก 30% ดีกว่าเข้าหาคนที่มีพลังบวก 100%”
เพราะคนที่คิดลบบ้าง มักเข้าใจความโหดร้ายของผู้คนและชีวิต ไม่กดดันให้เราต้องยิ้มสู้หรือคิดบวกมากเกินไปทั้งที่ใจเราไม่พร้อม
55
77K
32K
มีพอร์ตแคสหนึ่งบอกไว้ดีมากว่า “ให้ระวัง culture แบบ I can do” เช่น เราต้องทำได้ทุกอย่าง ฉันทำได้ เธอก็ต้องทำได้ เรามี 24 ชม.เท่ากันนะ ฯลฯ
แต่ที่จริง คนอื่นทำได้ เราไม่ต้องทำได้ก็ได้ คนเรามีเวลาเท่ากัน แต่ข้อจำกัดต่างกัน “การพัฒนาตัวเองไม่ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของการทำร้ายตัวเอง”
26
62K
20K
อ่านเจอมาว่า “คู่รักที่อยู่ด้วยกันได้นาน เขาจะ Staying curious about each other คือมีความอยากรู้อยากเข้าใจในตัวคนรักเสมอ”
พูดง่ายๆ ว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเลิกสงสัย
อยากรู้อยากเข้าใจใครอีกคน อาจเป็นสัญญาณว่า ‘ความสัมพันธ์’ กำลังมีปัญหาแล้ว
14
39K
13K
ไม่ใช่หน้าที่เรา ที่ต้องไป “แบกรับบรรยากาศ” ของผู้อื่น
เตือนตัวเองไว้เสมอว่า เราไม่จำเป็นต้องโอบอุ้ม เอนเตอร์เทนหรือทำให้คนอื่นพอใจอยู่เสมอ เจ็บกันมาเยอะแล้วกับการเอาสุขภาพจิตไปแลกกับการ “เข้าสังคม” แค่วางตัวให้เหมาะสม สุภาพ มีขอบเขต ที่เหลือใครจะว่ายังไง ก็คงต้องปล่อยเขาไป
1
16K
8K
เชื่อเถอะว่า “ถูกที่ ถูกเวลา ถูกจังหวะชีวิต” มีอยู่จริง
คนรักดีๆ ที่เข้ามาในวัยที่พร้อม งานดีๆ ที่เข้ามาในช่วงเวลาที่เหมาะ แต่ไม่ใช่ว่าควรนั่งรอเฉยๆ แบบไม่ดูแล ไม่พัฒนาตัวเองนะ ตั้งใจใช้ชีวิต เตรียมตัวเองไว้ เมื่อโอกาสใดๆ มาถึงแล้ว มันไม่เคยหยุดรอให้คนที่ไม่พร้อม “คว้ามัน” หรอก
3
16K
7K
ในวัยเลข 3 พบว่า “การมีความสัมพันธ์แบบเรียบง่ายคือที่สุด” เคยได้ยินตัวละครหนึ่งในซีรีส์เกาหลีพูดว่า “เรามาใช้ชีวิตแบบน่าเบื่อๆ อย่างมีความสุขไปด้วยกันนะ”
มันคือความรู้สึกนี้เลย
ไม่อยากเสียเวลาไปกับรักหวือหวาที่ไม่ยืนยาว แต่อยากมีรักธรรมดาๆ ที่ทำให้อุ่นใจได้เสมอมากกว่า
9
14K
6K
ประโยคนี้จริงเสมอ “อย่าปล่อยให้ความสุขในชีวิตเราขึ้นอยู่กับใคร”
จงใช้ชีวิตคนเดียวให้เป็นและมีความสุขกับตัวเองในวันที่โดดเดี่ยวให้ได้ ส่วนความสุขที่ได้รับจากผู้อื่นคือ “โบนัสของชีวิต” ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
1
8K
4K
เราไม่จำเป็นต้อง ‘เป็นคนดี’ กับคนที่ทำแย่ๆ กับเรา ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ให้ใครเห็นว่า เราเป็นผู้ใหญ่หรือใจกว้างพอที่จะอดทนกับคนแย่ๆ ได้
- จงดีกับคนที่ดี
- นิ่งเฉย หลบหลีก มีระยะห่างกับคนแย่ๆ
- ตอบโต้เมื่อถึงคราวจำเป็น
- อย่าทำร้ายใครก่อน
- อย่ายอมให้ใครล้ำเส้นตลอดเวลา
5
5K
3K
โกลปี 2024 มีข้อเดียวคือ… “อย่าใช้ชีวิตกับอะไรที่ไร้ความหมายกับเรา”
เลือกได้เลือก ตัดได้ตัด มีเวลาอย่าลืมสำรวจ-ค้นหาสิ่งที่มีความหมายกับเราให้เจอ เพราะการใช้ชีวิตโดยโฟกัสสิ่งที่ meaningful เข้าไว้จะทำให้เรามีพลังใจไปรับมือกับความยากเย็นของชีวิตได้เสมอ
2
7K
3K
อ่านเจอมาว่า เราอยู่ใน ‘ยุคคลั่งเหนื่อย’ อยู่ใน culture ที่ความเครียดบอก status ทางสังคม คือยิ่งเหนื่อยยิ่งดูโปร ยิ่งยุ่งยิ่งดูดี เป็น ‘วัฒนธรรม’ ที่เราไม่ควรตามน้ำ เพราะงาน ความรับผิดชอบ หน้าที่ เป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่ใช่สิ่งที่ ‘สะท้อนคุณค่า’ ทั้งหมดของเรา
3
16K
3K
นักวิจัยค.สัมพันธ์คนหนึ่งเล่าว่า คนรักกันต้องรู้จัก Building a Culture of Appreciation คือต้องหมั่นชื่นชม ยินดีและเห็นค่าในสิ่งที่ทำให้กันเสมอ อย่าคิดว่า “ไม่ต้องขอบคุณก็น่าจะรู้อยู่แล้ว”
มันสำคัญมากที่ต้องคอยแสดงออกไป ไม่งั้นเราจะเริ่มมองข้ามกันจนกลายเป็นเรื่องปกติไปในที่สุด
2
7K
3K
การคบใครสักคนมันยากมากๆ นะ เพราะเรารักกันไม่ได้ตลอดเวลา เราจะเถียงกัน ดีกัน ทะเลาะกัน คิดถึงกันวนไปเรื่อยๆ
คนรักที่ดีในวัยผู้ใหญ่ จึงต้องเป็นคนโตๆ ที่มีวุฒิภาะมากๆ ต้องเข้าใจในความเป็นมนุษย์ของกันและกัน ซึ่งหมายถึง… ไม่มีใครบนโลกใบนี้เพอร์เฟ็กต์ทั้งนั้น
1
5K
2K
ยุคนี้หาแฟนยากนะ ถึงเจอคนเยอะ โอกาสเข้าถึงกันเยอะขึ้นแต่กลับยิ่งยาก เคยอ่านเจอว่ามันเป็น Paradox of choice คือมีเยอะจนเลือกไม่ถูก เลือกแล้วก็กลัวจะเลือกผิด กั๊กๆรักพี่เสียดายน้อง อีกอย่างมันทำให้เราเริ่ม shopping คสพ. ทำเหมือนซื้อของอะ ไม่ชอบก็ทิ้ง ซื้อใหม่วนไปเพราะมีให้เลือกเยอะ
2
5K
2K
วันหนึ่ง พอเรา “ใจดีกับตัวเอง” ก็อาจจะดู “ใจร้ายกับคนอื่น” ขึ้นมาทันที
แต่อย่าเอาความเห็นคนอื่นมาเป็นตัวกำหนดเลยว่า เราควรรักและปกป้องตัวเองแค่ไหน บางคนมองว่าเราใจร้าย ไม่ใช่เพราะเราทำร้ายเขา แต่เพราะเราทำไม่ถูกใจเขา ถ้าเรามี self love แบบไม่ selfish ก็ไม่ผิดที่จะใจดีกับตัวเองนะ
0
2K
1K
โตขึ้น เราจะเรียนรู้ว่า “การถูกลืม การไม่ถูกชวน ไม่ถูกนึกถึง ไม่ถูกทัก ไม่ถูกเมนชั่น ไม่ได้อยู่ในกลุ่มนั้นกลุ่มนี้บ้าง” ไม่เป็นไรเลย
มันโอเค ถ้าเราจะไม่ได้อยู่ในสปอร์ตไลท์ของสังคมตลอด เอาเวลาไปใช้ชีวิต ไปทำสิ่งที่อยากทำ ไปมีความสุขกับตัวเองดีกว่านะ
1
2K
991
ในวัยหนึ่ง เราจะเลิกเลือกคนรักจาก “เช็กลิสต์” ในอุดมคติ แต่โฟกัสที่ “เขาคนนั้นทำให้เรารู้สึกยังไง” แทน
เพราะบางคนสวยหล่อเพอร์เฟ็กต์ แต่อยู่ด้วยแล้วอึดอัดใจ รู้สึกดีไม่พออยู่ตลอดเวลา ขณะที่บางคน ไม่ได้สมบูรณ์แบบหรอก แต่อยู่ด้วยแล้วกลับรู้สึกปลอดภัย เป็นตัวเองและมีความสุขมากๆ
1
2K
894
เลิกวิ่งตาม เลิกถาม เลิกร้องขอให้ “คนที่ไม่สนใจเรา” มาอยู่ในชีวิตเรา แล้วจะมีความสุขขึ้นอีกเยอะ
การเติบโตจะสอนให้เราอยู่คนเดียวเป็น ขอแค่ยอมรับมัน อย่ามองว่ามันแย่หรือดูน่าสงสาร เพราะเชื่อเถอะว่า คนที่อยู่คนเดียวไม่ได้ ต้องคอยเอาตัวเองไปผูกติดกับผู้อื่นตลอดเวลา น่าเห็นใจกว่ามาก
0
1K
863
ยากแต่จริงคือ “เราต้องหัดคุมเสียงของคนอื่นในหัวเราให้ดี” อย่าให้มันดังเกินเสียงความคิดของเรา
หรี่เสียงคนอื่นลงบ้าง เปิดเสียงตัวเองให้ดังๆ ชัดๆ คุยกับตัวเองเยอะๆ เราต้องการอะไร อยากทำ ไม่อยากทำอะไร รู้จักเลือกและโฟกัส คนที่มีแต่เสียงความเห็นของคนอื่นคอยสั่งการน่ะ ไม่มีความสุขหรอก
0
1K
736
Cr: หนังสือ ชีวิตเราไม่ได้ยืนยาวพอที่จะอยู่อย่างอดทน จิตแพทย์ผู้เขียน ‘ซูซูกิ ยูซึเกะ’ สนพ.วีเลิร์น
1
555
578
มันจริงมากๆ ที่ยิ่งโตเพื่อนจะยิ่งน้อยลง วันหนึ่ง เราจะเดินไปไกลขึ้นเรื่อยๆ และพบว่า เมื่อหันหลังกลับไปมอง มันไม่เหลือใครที่จะคอยร่วมยินดีกับความสำเร็จในชีวิตของเราแล้ว
3
3K
518
พี่จิตแพทย์ที่รู้จัก เคยพูดไว้ดีมากว่า “เวลาเครียด ไม่ไหวหรือใจกำลังจะพัง ให้จำไว้ว่า ‘You need what you need now’ นะ” คือ บางครั้ง ถ้าอยากร้องไห้ ระบายหรือทำอะไรเพื่อฮีลตัวเองตอนนี้! เดี๋ยวนี้! ก็ให้ทำเลย อย่ารอจนสายเกินไป รู้ไว้ว่า ใจเราในวินาทีที่มันกำลังย่ำแย่นั้นสำคัญที่สุด
2
671
475
Healthy Relationship ในวัยผู้ใหญ่ ไม่ใช่แค่การตามหาใครสักคนที่สมบูรณ์แบบมารักและเติมเต็มเราเท่านั้น
แต่คือการเข้าใจว่า “ความสัมพันธ์ที่ดีควรเริ่มต้นจากคน 2 คนซึ่งรู้จักดูแล เทคแคร์และเติมเต็มชีวิตตัวเองก่อน” มารักกัน
0
1K
470
อ่านเจอมาว่าสิ่งที่เป็น Glue of love ซึ่งทำให้ความรักคนเราไปรอดคือ Small Moments ไม่ใช่แค่ Special Moments ที่ยิ่งใหญ่
คือเรื่องเล็กๆ หลายร้อยพันเรื่องในชีวิตประจำวันที่ทำให้เรามีความสุข หัวเราะ เรียนรู้และได้ใช้เวลาร่วมกัน
0
985
466
สิ่งที่ฮีลใจได้มากๆ ในวันที่รู้สึก “ไม่ดีพอ ไม่เก่งพอ ไม่มีคุณค่าแบบใครๆ” คือการมองย้อนกลับไปว่า “what makes me, me?” เราโตมาจนขนาดนี้ได้ยังไง เรื่องแย่ๆ มากมายเท่าไหร่ที่เราฟันฝ่ามาได้
ชีวิตที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เพราะเราดีและเก่งพอในแบบของเรานะ โลกถึงมีเราในวันนี้ได้
1
562
460
หลังๆไม่ติดใจนะ “ถ้าไม่ได้เป็นคนสำคัญของใคร”
เพราะการพยายามสำคัญกับทุกคนบนโลกมันยาก แล้วการให้ความสำคัญกับทุกคนบนโลกก็ยากยิ่งกว่า ความสุขในชีวิตไม่ได้เกิดขึ้นจากตรงนั้น แต่เกิดขึ้นจากการไม่ให้ความสำคัญกับใครโดยไม่เลือก และเป็นคนที่ไม่ต้องอยู่ “ในสปอร์ตไลต์” ของผู้คนบ้างต่างหาก
0
702
453
สัญญาณหนึ่งของ ‘ความสัมพันธ์ดีๆ’ คือเราจะสามารถมี ‘Deep conversation’ กับเขาคนนั้นได้
เราจะกล้าคุยกันในเรื่องลึกซึ้ง กล้าแลกเปลี่ยนทัศนคติกันตรงๆ เขาจะอยากฟังเรา เราจะอยากฟังเขา เราจะตั้งคำถามใส่กันโดยไม่ตัดสิน จนความสัมพันธ์มันเติบโตขึ้นได้
0
542
374
โตขึ้นก็พบว่า คนที่มีเสน่ห์มากๆคือคนที่มี Empathic listening เวลาเจอคนแบบนี้จะรู้สึกประทับใจขึ้น 1,000%
เพราะคนที่ทัศนคติดี ลุคดีใครๆก็ชอบอยู่แล้ว แต่การจะเจอคนที่รับฟังคนอื่นอย่างจริงใจนี่ยากมาก รู้สึกว่าการ ‘ฟังเป็น’ มันสื่อให้เห็นว่าคนๆนั้นรู้จักใส่ใจ-ให้เกียรติคนรอบข้างจริงๆ
0
650
372
“วันที่เราเหนื่อยใจจะไม่มีใครรู้ แต่วันที่เราเอาชีวิตไม่อยู่หรือยอมแพ้คนจะรู้ทันที”
ดังนั้น อย่าห่วงว่าใครจะรู้เรื่องเราแค่ไหน เพราะไม่มีใครเข้าใจเราได้ตลอดหรอก ใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง เหนื่อยเพื่อตัวเอง แม้วันที่ยอมแพ้ก็ทำเพื่อตัวเอง แล้วสายตาใครๆ ก็จะทำร้ายเราไม่ได้อีก
1
480
324
อ่านเจอมาว่า “คนเราชอบเดาความคิดและความรู้สึกของคนอื่นไปเอง แต่ถึงแม้เป็นคนรักกัน เราก็จะเดาถูกแค่ 35% เท่านั้น ส่วนคนที่ไม่รู้จักกัน โอกาสเดาถูกมีไม่เกิน 20%”
ดังนั้น ต่อให้รักกันมาก ก็อย่าคิดว่าเราจะรู้ใจกัน 100% โดยไม่ต้องใส่ใจกันเลย เพราะอาจทำให้ความรักย่ำแย่ลงได้
0
735
228
รู้สึกว่า “คนที่ชัดเจนกับชีวิตมากๆ” จะมีแฟนยาก เพราะเขารู้ตัวเสมอว่าต้องการคนแบบไหน รักแบบไหน จะมีขอบเขตระหว่างตัวเองกับคนที่เข้ามาชัดมากๆ
ข้อดี - ไม่วุ่นวายยืดเยื้อกับคนที่ไม่ใช่ เอ็นจอยกับตัวเองมากๆ ข้อเสีย - ตัดสินคนไว เปิดใจได้น้อย รู้สึกโดดเดี่ยวบ้าง
0
299
220
จิตวิทยาความรักข้อหนึ่งบอกว่า เราจะหลงรักคนที่เป็นเหมือน ‘ฐานที่มั่นอันปลอดภัย’
คือ คนที่ทำให้เรากล้าใช้ชีวิตอย่างอิสระ คนที่ทำให้เรารู้สึกว่า ถ้ามีเขาอยู่ เราจะไม่เป็นไร คนที่เมื่อคบแล้ว เราจะรู้สึกวางใจและไม่ต้องห่วงว่า ‘เมื่อเราเป็นเรา’ เขาจะจากไป
0
264
211
ประโยคที่ว่า “โตแล้ว ไม่มีเวลาจะมานั่งสนใจดราม่าผู้คน” คือเรื่องจริง
เพราะเราต่างก็มีชีวิตที่ต้องใช้ การที่มีปัญหากันแล้วมานั่งดราม่า ประชดประชันหรือทำสงครามเย็นใส่กัน คือเรื่องที่เสียเวลาและเสียพลังงานชีวิตมากๆ ปล่อยได้ปล่อยนะ จับมือไว้แค่คนที่สำคัญก็พอ
0
254
211
Cr:
0
148
200
‘การมีคนรักที่ดี’ ช่วยฮีลใจเราได้มากก็จริงอยู่ แต่ถึงไม่มีใคร เราก็ต้องฮีลใจตัวเองให้ได้ด้วย เพราะไม่มีใครกอบกู้ แก้ไขหรือซ่อมแซมชีวิตที่พังทลายของเราได้ยกเว้นตัวเราเอง
ความสัมพันธ์ที่ดี เริ่มต้นที่เรารู้จักรักและรับผิดชอบชีวิตของตัวเองก่อนเช่นกันนะ
0
233
188
สัญญาณหนึ่งที่บอกได้ว่าใจเรากำลังแย่มากๆ แล้ว คือตอนที่ “เราพยายามทำตัวเป็นปกติ ทั้งที่ข้างในไม่ปกติ”
คือตอนที่เราแสดงออกว่ายิ้มได้ หัวเราะได้เป็นปกติ ทั้งที่ในใจรู้ดีว่า เรากำลังประคองตัวเองในทุกๆ นาทีไม่ให้ล้มลง เรากำลังเปราะบาง แต่พยายามจะไม่เปราะบางให้ใครเห็น
1
216
178
นักจิตวิทยาคนหนึ่งบอกว่า “ความชัดเจน” ช่วยเซฟความสัมพันธ์ของคนเราได้ เราควรเลิกคิดว่า คนรักกันต้องเดาใจกันได้หรือแค่มองตาก็ต้องรู้ใจกัน
เพราะต่อให้รักจนเหมือนเป็นคนๆ เดียวกันแค่ไหน การแสดงความรู้สึกนึกคิดออกไปให้ชัดเจนก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ นะ
1
198
176
พอทำงานหนักๆ เครียดๆ จะกินแย่ นอนแย่ ร่างกายรวน รูทีนชีวิตพัง “การบาลานซ์ชีวิต” ยุคนี้มันไม่ง่ายนะ ใช้ชีวิตแบบว่ากันไปเป็นช่วงๆ ดีกว่ามั้ย ช่วงนี้งานหนัก เอางานให้รอดก่อน ช่วงนี้เครียดน้อย กลับมาใส่ใจตัวเองหน่อย อย่าพยายามแบกทุกอย่างให้ได้ในคราวเดียว พอทำไม่ได้ใจเรามันจะพังเอา
0
325
175
บ่นกับเพื่อนว่า “เฟลว่ะ ร่างกายแย่ๆ รู้สึกป่วย ทำงานไม่ค่อยได้เลย” เพื่อนตอบกลับมาว่า…
“ถ้าร่างกายมึงพูดได้ก็คงจะบอกว่า เฟลว่ะ กูแย่ขนาดนี้ มึงก็ยังจะดันทุรังทำแต่งาน ไม่คิดจะดูแลกูบ้างเลยเหรอ”
0
426
169
เคยได้ยินมาว่า “Tiny little moments make a big difference for a couple”
เพราะ ‘เรื่องเล็กน้อย’ คือทุกอย่างใน ‘ความสัมพันธ์’
การทำสิ่งดีๆ เล็กน้อยต่อกันทุกวัน ทำให้ความสัมพันธ์แข็งแรงขึ้นได้ กลับกัน การไม่ใส่ใจ ละเลยกันเล็กๆ น้อยๆ ไปทุกวัน ก็ทำให้ความสัมพันธ์แย่ลงได้เช่นกัน
0
244
168
เมื่อพูดจาไม่ดี แล้วคนอื่นไม่ตอบโต้ ไม่ได้หมายถึงคุณมีอำนาจ น่าเคารพ แต่หมายถึงคนอื่นเขาเลือกวุฒิภาวะก่อนอารมณ์ เลือกมารยาทก่อนความสะใจ
เมื่อมองใครอีกคนแบบ ‘เพื่อนมนุษย์’ คุณจะรู้ว่า ควรพูดยังไงให้รู้เรื่องเหมือนกัน โดยไม่ต้องทำร้ายจิตใจกัน
0
224
166
อ่านเจอที่ ‘นักจิตวิทยา’ คนหนึ่งบอกเอาไว้ว่า มี ‘ความคิด 13 แบบ’ ที่ทำให้คนเรารู้สึกเศร้า ไร้ความสุข รู้สึกไม่ดีทั้งกับตัวเองและคนอื่นได้
(อ่านต่อ👇🏻)
1
183
160
เจอประโยคหนึ่งที่ชอบมากคือ “Don't let anyone make you disappear”
เราไม่ควรถูกใครทำให้หายไป ไม่ว่าจะในความสัมพันธ์แบบใด อย่าปล่อยให้ใครทำให้เรารู้สึกแย่ ไร้ตัวตน ถ้าคนตรงหน้ามองไม่เห็นคุณค่าเรา ก็แค่พาตัวเองออกไปพบกับคนที่เขามองเห็นมันนะ
1
228
157
ในวัยผู้ใหญ่ เราจะพบว่า…
“หนึ่งในวิธีให้ความสำคัญกับตัวเองที่ดีที่สุด คือการลดระยะห่างจากคนแย่ๆ ถอยห่างจากความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ และคนที่ไม่ให้ความสำคัญกับเรา”
0
197
155
นักจิตวิทยาคนหนึ่งสอนเราว่า “อย่าปล่อยให้อะไรสำคัญไปกว่า Well-being ของตัวเองนะ”
การเป็นคนเก่ง คนดี ขยันอดทน เป็นคนที่เห็นใจ ใส่ใจงาน ผู้คน สังคม ไม่ผิด แต่อย่าปล่อยให้สิ่งเหล่านี้สำคัญไปกว่าชีวิต อารมณ์ ความรู้สึกและความสุขของเราในทุกๆ วันเด็ดขาด
0
189
154
มีพี่นักจิตวิทยาบอกมาว่า “การมีความสัมพันธ์ ก็เหมือนการเข้าคลับ มันมีค่า membership fee”
แต่เราไม่ได้จ่ายด้วยเงินนะ เราจ่ายด้วยตัวตน ความรู้สึก ความต้องการและขอบเขตของเรา สิ่งสำคัญคือ การสำรวจตัวเองเสมอว่าวันนี้ เราฝืนจ่ายค่าความสัมพันธ์ให้ใครเกินตัวอยู่รึเปล่า?
0
160
152
จะรับมือกับคนที่ทำตัวแย่ๆกับเรายังไง?
คำตอบคือ… เราไม่จำเป็นต้องรับหินทุกก้อนมาแบก ไม่ต้องรับขยะทุกชิ้นมาเก็บไว้ สิ่งไม่ดีจากคนไม่สำคัญ ไม่ต้องหาทางรับมือ แต่หาทางปล่อยไปให้ไวที่สุดดีกว่า เพราะสุดท้าย… ปล่อยได้ก่อนก็เบาก่อน วางได้ก่อนก็มีความสุขกว่านะ
0
211
150
ในโลกส่วนตัว เราจะเป็นคนแบบไหนก็ได้ แต่ในโลกของการทำงาน เราจะคิดว่า “ก็ฉันเป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว” ไม่ได้
คนเราเป็นตัวเองกันได้นะ แต่ต้องรู้จักกาลเทศะและเข้าใจว่า “ชีวิตของคนอื่นไม่ได้หมุนรอบตัวตนเรา” เคารพกันให้มาก แล้วเราจะทำร้ายจิตใจกันน้อยลง
1
177
138
ฟัง Podcast หนึ่งบอกว่า “Be my self ไม่ได้เท่ากับ Be a jerk นะ” การเป็นตัวเอง ไม่ได้หมายถึง ฉันจะทำตัวแย่ๆ ยังไงก็ได้ เพราะตัวฉันเป็นแบบนี้ ฉันแค่เป็นตัวเอง
ส่วนการรู้จักกรองตัวเองก่อนพูดหรือทำอะไร ก็ไม่ใช่การเสแสร้ง แต่คือการเป็นตัวเองในแบบที่โตแล้ว มีวุฒิภาวะแล้วต่างหาก
0
158
135
ในวัยหนึ่งจะรู้ว่า ยิ่งโตเรายิ่งต้องรู้จักเห็นคุณค่าและเคารพตัวเองให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้ ‘ความสุข’ ของเราไปขึ้นอยู่กับใครหรือความสัมพันธ์ไหน
เพื่อให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างดี ไม่ว่าวันนี้ เราจะมีใครข้างกายหรือไม่ก็ตาม
0
162
130
เวลามีคนบอกว่า “โตแล้วนะ...” มันมักมาพร้อมกับสิ่งที่ห้ามทำ ห้ามรู้สึกหรือการต้องฝืนทนอะไรสักอย่าง แต่คนที่โตแล้วก็เป็นแค่คนธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น
“โตแล้วนะ” ควรมาพร้อมประโยคแบบ “โตแล้วนะ อ่อนแอได้” “โตแล้วนะ บางเรื่องไม่ต้องทนก็ได้” “โตแล้วนะ ไม่ต้องมีวุฒิภาวะกับคนแย่ๆ ก็ได้”
0
167
128
แล้วนี่คือชอบแนวคิด “การลงทุนกับตัวเอง” มาก
อะไรที่เป็นการลงทุนกับตัวเองทำไปเถอะ ไม่เสียหาย ไม่มีใครแย่งไปได้ เรียนสิ่งใหม่ๆ อ่านหนังสือ ทำงานอดิเรก ดูแลหน้าผิวผม กินดี ออกกำลังกาย คอยตรวจสุขภาพ ฯลฯ เพราะโลกมันกว้างกว่าแค่ตื่นไปทำงานให้หมดวัน เรายังมีความสุขกับชีวิตได้อีกเยอะ
0
165
131
อ่านเจอ ’กฎแห่งการเติบโต’ 4 ข้อสั้นๆ ที่ชอบมาก คือ…
1) พูดให้น้อยลง
2) ฟังให้มากขึ้น
3) ตอบโต้ให้น้อยลง
4) สังเกตให้มากขึ้น
0
129
124
“มีความรับผิดชอบ” ไม่ได้หมายถึงต้องทำทุกอย่าง “เป็น Professional” ไม่ได้หมายถึงห้ามปฏิเสธใครเลย คนเก่งไม่ได้แปลว่าต้องแบกรับทุกอย่างและห้ามทำให้ใครผิดหวัง
มีขอบเขตมากๆ ทำทุกอย่างให้เต็มที่ มีน้ำใจตามกำลังและอย่าอดทนกับอะไรที่ให้ผลลัพธ์น้อยกว่าที่เราควรจะได้รับ
0
167
124
อ่านเจอมาว่า คนที่ซึมเศร้าหรือวิตกกังวล ส่วนใหญ่เกิดจากความสัมพันธ์ในชีวิตที่ไม่ Healthy ทั้งจากการถูกรุกล้ำขอบเขต,พยายามทำให้คนอื่นพอใจเสมอ,แคร์ความคิดคนอื่นมากไป ฯลฯ
แต่เราควรรู้ว่า ไม่มีการเสียสละเพื่อความสัมพันธ์ใดที่คุ้ม���่าหรอก หากต้องแลกด้วยสุขภาพจิตและความสุขของตัวเราเอง
1
145
123
ไม่ต้องพยายามใช้ชีวิตให้ใครเห็นหรอกว่า “เราเป็นคนยังไง” หรือ “มีคุณค่าตรงไหน” เราไม่ได้ติดค้างการใช้ชีวิตใคร ไม่จำเป็นต้องตะโกนบอกหรือพิสูจน์ตัวเองให้ใครเห็น
ใช้ชีวิตให้ดีอย่างที่ใช้มาเถอะ อย่าเผลอไปพยายามเอาชนะใครบางคนที่ไม่ได้สำคัญและมีผลอะไรกับชีวิตเราเลย
1
175
123
อยู่ในช่วงวัยที่ “ตัดคนออกจากชีวิต” ได้ง่ายมากๆ อดทนกับความสัมพันธ์ที่ไม่ส่งผลอะไรกับชีวิตได้น้อยลง ไม่ keep ไม่ continue หากรู้สึกลำบากใจ
ข้อดี…สุขภาพจิตดีขึ้นมาก ไม่ต้องเหนื่อยรองรับใจใคร ข้อเสีย…เหงา ความอดทนต่ำลง เริ่มด้านชาและเสียโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์(ที่อาจจะดี)ไป
0
147
118
เมื่อก่อนเชื่อเรื่องเนื้อคู่มาก แต่พอโตขึ้นกลับเชื่อว่า…
ความรักเป็นเรื่องของทัศนคติและความพยายามที่เรามีต่อกันมากกว่า คำว่าโชคชะตาคงมีอยู่จริง แต่รักที่ดีคงไม่ได้ขึ้นอยู่แค่กับว่า “เราเชื่ออะไร” แต่ขึ้นอยู่กับ “เราดูแลและรักกันไปแบบไหน” ด้วยมากกว่า
0
107
118
จะ “ดึงดูด” คนดีๆ สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต เราก็ต้องเปลี่ยนตัวเองให้เป็น “คนที่ดีขึ้น” ด้วย
คนเราไม่มีทางได้สิ่งใหม่จากการทำสิ่งเดิมๆ หรือเป็นคนแบบเดิม ต่อให้เราพาตัวเองไปอยู่ใกล้คนเก่ง คนเจ๋ง หรืออยู่ในสังคมที่ดีแค่ไหนก็ตาม
1
146
117
เจอข้อคิดความรักหนึ่งที่ชอบคือ “เรารอ ‘คนที่ใช่’ ได้นะ แต่อย่ารอให้คนที่ไม่ใช่ กลายมาเป็นคนที่ใช่เลย”
เพราะการเสียเวลารอใครสักคนที่ไม่ใช่ ไม่ได้รัก ไม่ได้เห็นคุณค่าเรา เท่ากับเรากำลังเสียโอกาสที่จะได้เจอกับคนรักที่ดี ที่ใช่จริงๆ ไป
0
111
118
ในวัยทำงานจะรู้ว่า “จงต่อสู้กับคนที่มีค่าพอเท่านั้น” อย่าเอาพลังชีวิตไปสู้กับคน Toxic ที่ไม่มีประโยชน์ หรือเกี่ยวข้องด้วยแล้วไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้นมา
ไม่ใช่ว่าต้องเห็นแก่ตัว แต่เพราะพลังใจเรามีจำกัดมากๆ เลือกสู้กับคนที่มีประโยชน์ เลือกทุ่มเทให้บางคนที่ดีและมีคุณค่ากับเราก็พอ
1
180
118
เชื่อเสมอว่า ก่อนจะมีรักที่ดีได้นั้น “เราต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวเองก่อน”
เพราะเมื่อเรารักและดูแลตัวเองได้ดีพอ เราจะรู้ชัดเลยว่า คนแบบไหนที่คู่ควรกับคุณค่าของเรา และคนแบบไหนที่เราควรตัดออกจากชีวิตไป เพราะเขาไม่มีทางรักเราได้ดีเท่ากับที่เรารักตัวเองแน่นอน
0
130
115
ความยากหนึ่งในวัยทำงานคือ “การรับมือคนด้วยกันเองนี่แหละ”
เพราะทุกคนมีปม มีแผลใจ มีอคติ อีโก้ แล้วก็พร้อมปกป้องมันด้วยการสาดสิ่งแย่ๆ ใส่คนอื่น ไม่ใช่ทุกคนที่เราเจอจะควบคุมตัวเองได้ การมีวุฒิภาวะสำคัญมาก แต่การปกป้องและประคับประคอง “สุขภาพจิต” ของตัวเองไม่ให้พังลงก็สำคัญไม่แพ้กัน
0
184
115
พอโตขึ้น เรียนรู้ว่า การใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ หรือยังมองอนาคตไกลๆ ไม่ออก ไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่กลับทำให้เรามีความสุขขึ้นได้ในหลายๆ ครั้งด้วยซ้ำ
“บางที การมองเห็นแค่วันนี้ ตอนนี้ ใช้ชีวิตให้จบวันไปอย่างดีและมีความสุขที่สุด อาจจะเพียงพอแล้วก็ได้นะ”
0
120
110
“การเป็นคนยังไงก็ได้” ไม่ว่ากับความสัมพันธ์ใด ไม่ได้ทำให้ใครรักเรามากขึ้น แต่อาจทำให้เขาเห็นค่าเราน้อยลงด้วยซ้ำ ถ้าเรากล้ามีขอบเขตหรือใส่ใจความต้องการของตนเองแล้วคนอื่นไม่รัก ก็คงต้องปล่อยกันไป
เพราะเราไม่จำเป็นต้องพยายามเป็นใครที่ไม่ใช่ตัวเองเพื่อร้องขอความรักจากคนอื่นเลย
0
151
114
สิ่งที่บอกกับตัวเองในวันที่โตขึ้นคือ “เราจะไม่มานั่งอธิบายตัวเองให้คนอื่นฟังอีกแล้ว” เช่น ทำไมอ้วนขึ้นหรือผอมลง ทำไมคบคนนี้ไม่คบคนนั้น ทำไมแต่งตัวแบบนี้ไม่แต่งแบบอื่น ฯลฯ
เราอาจชินกับการห่วงว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับเรา แต่บางที ไม่จำเป็นหรอก ห่วงความสุข ห่วงขอบเขตตัวเองบ้างดีกว่า
2
122
112
“จะรักกับใครก็ตาม อย่าฝากความสุขในชีวิตเอาไว้กับเขา” มันไม่ใช่ว่าเราต้องมองคนรักในแง่ร้ายนะ แต่เราต้องรักกันโดยเข้าใจด้วยว่า…
หน้าที่ใน ‘การรับผิดชอบ’ ชีวิต ความฝัน ความหวังและความสุขของเรา ก็คือตัวเราเอง ไม่ใช่คนอื่น
0
125
109
“อย่าสนใจคำวิจารณ์ของคนที่มาจาก Cheap seats” หมายถึง อย่าใส่ใจคำพูด ความเห็นของคนที่มาจาก ‘ที่นั่งราคาถูก’
คนที่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นอะไรในชีวิตเรา ไม่ได้รู้จักและเข้าใจเราจริง ไม่เคยทำในสิ่งที่เราสามารถทำได้ แต่ชอบโยนคอมเมนต์และคำตัดสินใส่เราตลอดเวลา
0
127
107
อย่าแคร์คนที่ “เขาดีกับเรา” แค่เฉพาะเวลาที่ “เขาอยากจะดี” เท่านั้น
ทำตัวกลางๆ มีขอบเขตชัดๆ กับคนแบบนี้เข้าไว้ ไม่ต้องดี ไม่ต้องแย่ แล้วก็อย่าไปอินกับเขามาก เพราะคนที่ดีกับเราจริงๆ เขาจะวางตัวดีและรู้จักควบคุมตัวเองเสมอ ถ้าอินมากไป ใจเรานี่แหละจะพังเสียเอง
0
118
106
เมื่อก่อนเคยคิดว่า “ชีวิตมันสั้น อย่าอดทนกับสิ่งที่ไม่ชอบ” แต่วันนี้กลับมองว่า “ไม่ว่าชีวิตจะสั้นหรือยาว เราก็หนีเรื่องยากๆ ที่ต้องอดทนไม่พ้น”
ชีวิตที่ดีไม่ใช่ชีวิตที่เราไม่ต้องทนกับอะไรเลย แต่คือชีวิตที่เราเลือกอดทนกับเรื่องที่คุ้มค่า เพื่อเรียนรู้และเติบโตไปกับมันต่างหาก
0
120
105
โลกนี้ไม่ได้ยุติธรรมกับเราเสมอไปหรอก เวลาเจอเรื่องเลวร้ายหรือคนแย่ๆ ที่ทำให้เรารู้สึกไม่แฟร์ สิ่งที่ทำได้คือ
“ปกป้องตัวเองให้ได้มากที่สุดจากสิ่งเหล่านั้นที่อาจด้อยค่าเราจนสูญเสียความมั่นใจไป” ดูแลตัวเองให้สุดความสามารถเข้าไว้ เพราะนั่นคือสิ่งที่เราทำได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
1
142
103
อย่าให้ใครๆ เอาคำว่า “รักตัวเอง” มากดดันเราให้ต้องรีบ “เข้มแข็ง มูฟออน ไปต่อ หรือเลิกเศร้า”
การที่คนเราเจ็บปวดเสียใจ หรือจมกับความทุกข์บ้าง ไม่ได้แปลว่า “เรารักตัวเองไม่พอ” แต่แปลว่า เราเป็นแค่คนธรรมดาๆ ที่ต้องการเวลาเยียวยาฮีลใจเพื่อดูแลและรักตัวเองในแบบของเราก็เท่านั้น
0
106
105
เคารพขอบเขตในชีวิตของตัวเองให้มากนะ เราไม่สามารถ ‘เป็นทุกอย่าง’ ให้กับคนทุกคนได้ เพราะสุดท้าย… เราจะไม่เหลืออะไรให้ตัวเองเลย
1
104
101
ทุกคนมีวันแย่ๆ มีช่วงเวลา suffer หมด แต่เชื่อมั้ยว่าทุกอย่างจะเบาลง เมื่อเราได้ “คุยกับใครสักคน” ที่เราไว้ใจ
มันจริงนะที่ว่า บางทีเรารู้สึกแย่กับชีวิตวนลูป เหงาทั้งที่อยู่กับคนมากมาย ไม่ใช่เพราะเราไม่มีใคร แต่เพราะเราไม่มีคนที่มีความหมายจริงๆ อยู่ข้างกันในวันที่ใจมันแย่ต่างหาก
0
119
105
อย่าคิดมาก ถ้าถูกบอกว่า “ทำไมเปลี่ยนไป” “เมื่อก่อนไม่เห็นเป็นแบบนี้นี่”
เพราะไม่ใครที่ไม่เปลี่ยนไปหรอก คนเรามีสิทธิ์ที่จะเติบโตไปเป็นตัวเองในทุกเวอร์ชันหากไม่เดือดร้อนใคร เราจึงควรเลือกใส่ใจและใช้ชีวิตเป็นตัวเราไปให้ดีที่สุดก็พอ
0
106
103
โตขึ้นจึงรู้ว่า “รักไม่ใช่ปาฏิหาริย์ แต่รักคือ ‘ความพยายาม’ ต่างหาก” พยายามรักษา พยายามปรับตัว พยายามเข้าใจ พยายามเรียนรู้ พยายามสื่อสาร เพราะรักมี ‘คุณค่า’ เกินกว่าจะง่ายดาย และไม่มีรักใดที่ไม่ต้องพยายาม
0
184
102
ในวัยหนึ่ง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การรู้สึก “comfortable กับตัวเอง”
อยากไปไหนก็ไปคนเดียว อยู่กับตัวเองได้สบาย อยากใส่เสื้อยืด รองเท้าแตะ แต่งตัวยังไงก็แต่ง ไม่ต้องสนว่าใครจะมองยังไงขนาดนั้น เป็นตัวเองกับคนสนิทได้เต็มที่ ฟิลเตอร์ตัวเองน้อยลง เป็นตัวเองในแบบที่สบายใจจริงๆ มากขึ้น
1
103
101
บางคู่ ศีลเสมอ เลยได้รักกัน
บางคู่ ศีลเสมอ แต่ไม่ได้รักกัน
บางคู่ ศีลเสมอ รักกันแล้วแต่ไปไม่รอด
ที่จะบอกคือ ความรักจะไปรอดมั้ยนั้น บางครั้งไม่ได้อยู่แค่ที่ ‘ความเหมือน’ แต่อยู่ที่เราจะจัดการกับ ‘ความต่าง’ ซึ่งค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในชีวิตคู่ยังไงด้วย
0
97
102
รู้ซึ้งในตอนโตว่า “ถ้าสงสัย ไม่โอเคกับการกระทำใคร ให้ถาม ให้เคลียร์เลย อย่าเก็บไว้จนทนไม่ไหว แล้วไปบอกทีหลัง” เพราะอีกคนจะไม่เข้าใจทันทีว่า ทำไมไม่บอกแต่แรก
เราอาจเกรงใจ กลัวทะเลาะ แต่การอุ้มระเบิดเวลาไว้เพื่อรอวันมันระเบิดทีหลัง ทำร้ายตัวเราเองได้มากกว่านะ
0
128
100
หลายครั้ง การโตเป็น ‘ผู้ใหญ่’ ก็หมายถึง
“การรู้จักพาตัวเองเดินออกมาจากคนแย่ๆ หรือสถานการณ์ใดก็ตามที่บั่นทอน และด้อยคุณค่าของตัวตนเรา”
0
138
99
วันหนึ่ง เราจะอยากรักกับคนที่รู้จัก “ซ่อมแซมความสัมพันธ์” เมื่อมันเกิดปัญหา คนที่กล้าเริ่มขอโทษ กล้าตรงไปตรงมากับเรา โดยไม่สนว่าใครจะแพ้หรือชนะ
คนที่รู้ดีว่า ไม่มีอะไรทำร้ายความรัก ความสัมพันธ์ได้เท่ากับการที่คนสองคนเลิกสื่อสารกันอีกแล้ว
0
129
99
ชอบประโยคนี้ที่ว่า “เวลาอ่อนแอ ให้รีบเอาตัวเองออกมาจากคนที่ตัดสินเรา” เพราะเมื่อจิตใจย่ำแย่ การเจอคนไม่ดีจะยิ่งทำให้เราอ่อนแอมากขึ้นอีก
จำไว้เสมอว่า ในวันที่เราไม่ไหว ไม่ผิดอะไรที่เราจะสนใจตัวเองก่อนและทิ้งคนแย่ๆ เอาไว้ข้างหลังนะ
1
114
100
สังเกตมั้ย? ยิ่งโต เราจะยิ่งนิ่งเฉย ยิ่งเย็นชากับคน
ยิ่งโต เราจะยิ่งไม่อยากให้ใจ ไม่อยากยินดียินร้าย ไม่อยากเก็บเรื่องใครมาแบกไว้ให้หนักใจทั้งนั้น!
เราจะพร้อมปล่อยผ่านคนแย่ๆ ที่เข้ามาในชีวิตได้ทันทีถ้าจำเป็น
0
205
95
เว็บจิตวิทยาหนึ่งบอกว่า ความสัมพันธ์กับคนข้างๆ จะแย่ลง ถ้าเราเป็นคน “Over apologize” หรือ “พูดขอโทษ” จนติดปาก ทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด
เราจะดูขาด Self-esteem, ไร้ power, ดูแลตนเองไม่ได้ ที่สำคัญคือ จะถูกรุกล้ำขอบเขตชีวิตได้ง่ายๆ
0
130
98
วันหนึ่งเราจะเข้าใจว่า “ตัวตนเราที่คนอื่นสร้างขึ้นมาเองในหัวของเขา ไม่ใช่ความรับผิดชอบของเรา”
เรามีหน้าที่รับผิดชอบความคิด คำพูด ความคาดหวังและการกระทำของตัวเราเองเท่านั้น
0
87
95
เชื่อเสมอว่า คนเราไม่ได้เกิดมาเพื่อเจอแต่ความสุข เรื่องดีๆ หรือชีวิตบวกๆ หรอก เราเกิดมาเพื่ออะไรก็ยังไม่รู้ รู้แค่ว่าเราต้อง experience ทุกอย่างทั้งดีและร้ายก่อนเท่านั้น ถึงจะหาคำตอบได้
ต้นไม้เติบโตไม่ได้แค่ในที่สว่าง แข็งแรงขึ้นไม่ได้ถ้าไม่ผลัดใบทิ้งไปบ้าง ชีวิตก็เช่นกัน
1
111
96
พอใช้ชีวิตโสดมานาน แล้ววันหนึ่งเกิดอยากมีใครสักคนขึ้นมา พบว่า ความยากคือ...
“การทำให้ตัวเองกลับมาเชื่อในความรักและเชื่อในตัวผู้คนอีกครั้งหนึ่ง”
0
104
93
พอโตขึ้นจะเข้าใจว่า “ความรักไม่ใช่การให้” เพียงเท่านั้น แต่ความรักคือการที่เราต้องรู้จักให้และรู้จักรับไปพร้อมๆ กันด้วย
คนที่รู้จักให้ แต่รับไม่เป็น วันหนึ่งจะหมดแรงให้ คนที่เอาแต่รับ โดยไม่รู้จักให้ วันหนึ่งจะเสียคนที่รักไปแบบไม่รู้ตัว
0
132
91
ข้อดีหนึ่งของ “การโตขึ้น” คือเราใช้ชีวิตจนรู้แล้วว่าตัวเองชอบ-ไม่ชอบอะไร คนแบบไหน-สังคมแบบไหนที่เราโอเค
หลังๆ มานี้ความสุขในชีวิตจึงเป็นการกรองสิ่งที่ไม่ชอบหรือทำให้เสียเวลาออกไป ไม่ต้องเรียนทุกอย่าง รู้ทุกเรื่อง คบทุกคนในสังคม จะตกเทรนด์หรือพลาดอะไรไปบ้าง ก็ไม่เป็นไรเลยจริงๆ
0
91
88
เวลาได้ยินว่า “ความสุขคือการได้ใช้ชีวิตแบบที่ชอบ” นี่จะคิดว่า “ความสุขคือการอยู่กับชีวิตที่เราไม่ชอบได้ต่างหาก”
ชีวิตดีๆ ใครก็อยู่กับมันได้ แต่โลกใบนี้จะโยนทั้งสุข-ทุกข์ให้เราโดยไม่แคร์ว่าเราชอบมันมั้ย Just roll with it! เรียนรู้ ยอมรับ ปรับตัว จะทำให้เรามีความสุขขึ้นได้จริงๆ
0
99
91
คุยกับเพื่อนว่าทำไมคนเราเดี๋ยวนี้หวง ‘พื้นที่ส่วนตัว’ กันมาก
นี่ว่า “เพราะชีวิตเรามีขอบเขตให้ตัวเองยากขึ้น เราคุยงาน ติดต่อ เข้าถึง รับรู้นั่นนี่กันแบบ Non-stop” พอมีเวลาว่างเลยไม่อยากได้อะไร นอกจากพื้นที่ส่วนตัวที่อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องนั่งพะวงถึงใครหรืออะไรทั้งนั้น
0
83
90
รู้ว่าโลกนี้มีคนแย่ๆ มากมาย แต่สิ่งที่เราไม่ควรทำคื��� “การยอมให้คนแย่ๆ เปลี่ยนเราไปเป็นคนที่แย่แบบเขา”
กับคนที่ไม่ดี เราแค่ต้องตัดเขาออกไป เราแค่ต้องเข้มแข็งเพื่อก้าวข้าม ไม่ใช่หยาบกระด้างไปตามเขา
เพราะสุดท้าย “ตัวตนเรามีค่าเกินกว่าจะเปลี่ยนไปเป็นคนที่เราไม่ได้อยากเป็น”
1
92
88
คนๆ นั้นมีวุฒิภาวะมั้ย? บางทีก็ดูได้จากสิ่งที่ “เขาพูดออกมา” เพราะการเป็นผู้ใหญ่คือการที่รู้ว่า เราไม่จำเป็นต้องพูดทุกอย่างที่คิดก็ได้
ในวัยหนึ่ง เราจะค้นพบจริงๆ นะว่า “การเลือกที่จะไม่พูดบางเรื่องออกมาในบางครั้งนั้น สบายใจกว่าเยอะเลย”
0
84
90
โตขึ้นจะรู้ว่า อย่ายอมโดนใครเอาเปรียบเล็กน้อยไปเรื่อยๆ เพราะมันจะนำไปสู่การโดนเอาเปรียบในเรื่องใหญ่ๆ อย่ายอมเป็นคนที่ “ช่างเขาเถอะ” ทุกครั้ง เพราะมันจะทำให้เราต้อง “ช่างเขาเถอะ” ไปแบบไม่จบไม่สิ้น
ไม่ใช่ว่าเราต้องร้าย แต่เราต้องไม่ลืมปกป้องขอบเขตและพื้นที่ความสุขของตัวเองด้วย
0
138
89
พอแก่ขึ้นก็เริ่มรู้ซึ้งว่า “คนเราคือสิ่งมีชีวิตที่มีลิมิต” เมื่อก่อนใช้ชีวิตโดยคิดแต่ว่าเราแบ่งเวลาได้อีก ทำได้อีก ทนได้อีก แบกได้อีก สุดท้ายพอทำไม่ไหวก็วนกลับมาโจมตีตัวเองซ้ำว่า ทำไมถึงทำไม่ได้ เก่งไม่พอ ดีไม่พอ
ตอนนี้สิ่งที่คอยบอกตัวเองเสมอคือ เรามีลิมิต เรามีลิมิต เรามีลิมิต
0
95
89
เจอประโยคหนึ่งจากซีรีส์ที่ชอบคือ “การรู้จักเห็นใจคนอื่น คือการนึกถึงความเจ็บปวดที่เขาแบกเอาไว้”
คนเรารู้หน้า แต่ไม่รู้เลยว่าใจผุพังไปขนาดไหน จริงๆ ไม่รู้ไม่ผิดหรอกนะ แต่มันจะดี หากพยายามเข้าใจและไม่ทำให้กันและกันต้องแบกความเจ็บปวดเพิ่มขึ้น
Cr: Desperate housewives
0
96
91
อ่านเจอมาว่า เราอยู่ในยุคที่คนเจนใหม่ ‘ยอมแพ้ต่อความสัมพันธ์’ กันมากขึ้น โดยเฉพาะคนวัยทำงาน
เพราะ ‘ไม่มีเวลาให้กับความสัมพันธ์’ และที่สำคัญ แค่จะใช้ชีวิตเพื่อสร้างตัวเองให้มั่นคง มีกินมีใช้ก็ยากและกดดันมากๆ แล้ว การมีแฟน แต่งงาน มีลูกจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
1
151
88
อาจฟังดูแย่ แต่บางครั้ง เราต้องอนุญาตให้ตัวเอง ‘เป็���ความผิดหวัง’ ของคนอื่นบ้าง
ไม่ได้หมายถึงว่า เราสามารถทำร้ายใคร
ให้ผิดหวังอย่างตั้งใจยังไงก็ได้นะ แต่หมายถึง เราต้องเลิกทำร้ายตัวเองอย่างตั้งใจ ด้วยการเป็น ‘คนที่ยังไงก็ได้’ ของทุกคนต่างหาก
1
111
86
“เป็นธรรมดาที่คนมากมายจะไม่ชอบเรา แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องชอบคนทั้งโลกเช่นกัน”
เป็นตัวเองในแบบที่ดี ใช้ชีวิตที่อยากใช้เถอะ เพราะสุดท้าย คนที่ไม่ชอบเรา เขาไม่ได้เดือดร้อนและมารับผิดชอบชีวิตเราที่ต้องสูญเสียความเป็นตัวเองไปเพื่อเขาหรอก
0
103
82
พอโตขึ้น สิ่งหนึ่งที่ใช้ตัดคนบางคนออกจากชีวิต ไม่ใช่แค่ความสนิท-ไม่สนิท แต่คือ…
คนที่ ‘give and take’ ไม่บาลานซ์กันกับเรา ไม่ได้หมายถึงว่า เราต้องให้ ต้องรับเท่ากันเป๊ะๆ ห้ามเสียสละเกินกว่ากัน แต่อย่างน้อย ต้องไม่ใช่คนที่เข้ามาเพื่อรับจากเราอย่างเดียว
0
103
87
โตแล้ว เตือนตัวเองไว้เสมอว่า… กับบางคน ไม่ต้องพยายามไปใช้ใจแลกใจหรือซื้อใจเขาหรอก
เรียนรู้ที่จะปล่อยวางและไม่ต้องเอาทุกคนเข้ามาอยู่ในชีวิตบ้างก็ได้ เพราะมันอาจไม่คุ้มค่ากับความสุขและเวลาชีวิตของเราที่ต้องสูญเสียไป
0
119
86