รมว.อว. กำชับในสถานศึกษาต้องปลอดภัย ‘ไม่มีมาเฟีย’ เข้าเยี่ยมส่งกำลังใจนักศึกษา ถูกรุ่นพี่ใช้น้ำร้อนราด . วันนี้ (11 กุมภาพันธ์) ที่สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ศรีอยุธยา) ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย ศ. ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. ได้ร่วมหารือแนวทางการดูแลป้องกันความปลอดภัยในสถาบันอุดมศึกษา และ กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ที่เดินทางมาพร้อมกับนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพที่เป็นผู้เสียหายจากกรณีโดนรุ่นพี่มหาวิทยาลัยเดียวกันทำร้ายและข่มขู่เพื่อขอเข้าพบและหารือ . ศุภมาสได้พูดคุยสอบถามและให้กำลังใจผู้เสียหายอย่างเป็นกันเอง โดยได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นกรณีศึกษาว่ามีกลุ่มมาเฟียในมหาวิทยาลัย ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องทางมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ รีบดำเนินการลงโทษผู้กระทำผิดโดยให้พ้นสภาพนักศึกษาทันที พร้อมเข้าไปดูแลผู้เสียหายให้ได้รับความเป็นธรรม แสดงให้เห็นถึงความจริงใจในการแก้ปัญหา ทำให้เห็นว่าคนทำผิดต้องได้รับโทษ และทุกภาคส่วนพร้อมอ้าแขนปกป้องน้องๆ ให้กลับเข้าไปเรียนได้อย่างมีความสุข . ขอให้สังคมสบายใจได้ว่า กระทรวง อว. และมหาวิทยาลัยยังไม่ยุติเรื่องนี้ง่ายๆ ถ้ายังไม่เกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่าย ตอนนี้มหาวิทยาลัยให้ผู้กระทำผิดพ้นสภาพนักศึกษาไป 2 คนแล้ว ถึงอยากได้ข้อมูลจากน้องๆ เพิ่มเติม ถ้ามีเบาะแสแจ้งมาได้เลย ทางมหาวิทยาลัยและกระทรวง อว. จะได้เข้าไปจัดการได้ครบถ้วน ซึ่งขณะนี้ก็ยังดำเนินการสอบสวนอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าคนที่ทำผิดกฎมหาวิทยาลัยต้องโดนไล่ออก คนที่ทำผิดกฎหมายบ้านเมืองก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย . ศุภมาสกล่าวต่อว่า สถานศึกษาต้องเป็นที่ที่ปลอดภัย ต้องไม่มีมาเฟียหรือการกระทำที่ผิดกฎหมาย เรามี พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่เอาไว้กำกับดูแลมหาวิทยาลัยเอกชน ถ้ามหาวิทยาลัยทำผิดเราสามารถเข้าไปควบคุมหรือปิดมหาวิทยาลัยได้ ถ้ามหาวิทยาลัยนั้นๆ ไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งเราเคยทำมาแล้ว จากนี้กระทรวง อว. จะกำชับไปยังทุกมหาวิทยาลัยไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ต้องไม่ปล่อยผ่าน หน้าที่ของเราคือต้องดูแลนักศึกษาให้เรียนได้อย่างมีความสุขและต้องรู้สึกปลอดภัย . “ถ้านักศึกษารู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย สามารถแจ้งไปที่มหาวิทยาลัยที่ตนเองศึกษาอยู่ หรือแจ้งมาที่กระทรวงโดยตรงก็ได้ เรามีศูนย์รับเรื่องร้องเรียนทั้งออฟไลน์และออนไลน์ สามารถแจ้งเบาะแสมาได้เลย กระทรวง อว. ก็จะรีบเข้าไปดำเนินการให้เร็วที่สุด นอกจากนี้กระทรวง อว. ยังให้ทุกมหาวิทยาลัยจัดให้มีศูนย์เพื่อนใจหรือศูนย์ดูแลสุขภาพจิตในมหาวิทยาลัย ซึ่งจะมีนักจิตวิทยามาดูแลสภาพจิตใจในกรณีที่นักศึกษาต้องการคำปรึกษาอีกด้วย” . ขณะที่กัณฐัศว์กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเห็นว่ากระทรวง อว. รับจบทุกเรื่องได้อย่างดี มีทางออกให้กับทุกคนมาโดยตลอด ตอนนี้น้องๆ ผู้เสียหายห่วงเรื่องความปลอดภัยของตนเอง เพราะยังมีคนในแก๊งที่ยังไม่ได้รับการลงโทษ บางคนยังไม่สลด มีการข่มขู่ หลายครั้งเรื่องเกิดในรั้วมหาวิทยาลัย การเดินทางมาวันนี้จึงอยากมาหารือแนวทางการดูแลความปลอดภัยของนักศึกษากับท่านรัฐมนตรีและปลัดกระทรวง อว. ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าทุกท่านจะให้ความช่วยเหลือและหาทางทางออก ตลอดจนให้ความเป็นธรรมกับน้องๆ ผู้เสียหายได้อย่างแน่นอน . #TheStandardNews

SHORT NEWS : เครื่องบินรัสเซีย ลงจอดสุวรรณภูมิ อย่างปลอดภัย หลังออกจากภูเก็ตบินวนกลางอันดามัน 2 ชั่วโมง . วันนี้ (10 กุมภาพันธ์) เวลาประมาณ 21.35 น. เครื่องบินประจำชาติรัสเซีย AEROFLOT เที่ยวบิน SU277 ลงจอดที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ อย่างปลอดภัย . ขณะนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบระบบของเครื่องบินหลังจากมีรายงานว่า มีปัญหาที่บริเวณล้อของตัวเครื่อง หลังเครื่องบินขึ้นสู่ท้องฟ้า . สำหรับเที่ยวบินดังกล่าวมีกำหนดการเดินทางจากท่าอากาศยานภูเก็ต(HKT) ไปยังท่าอากาศยานเชเรเมียตเตวา(SVO) กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย แต่เกิดปัญหาบินวนในทะเลอันดามัน และ บินวนในอ่าวไทยเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง . จนกระทั่งกัปตันประสานขอลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิ . ภาพ: ฐานิส สุดโต . #TheStandardNews #เครื่องบิน

กลาโหมทำหนังสือตอบ กมธ.ทหาร ชี้ไม่อาจเปิดเผยข้อมูลจำนวนนายพล เหตุ ‘ลับมาก’ กระทบความมั่นคง . วันนี้ (10 กุมภาพันธ์) กระทรวงกลาโหมส่งหนังสือถึงประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ข้อความระบุว่า จากที่กรรมาธิการฯ ขอข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติมในประเด็นเกี่ยวกับจำนวนอัตรานายพลชั้นนายพลตามลำดับ ตั้งแต่ระดับพลตรี พลโท พลเอก แยกตามเหล่าทัพ และการลดอัตรากำลังคนนั้น . สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมแจ้งข้อมูลดังต่อไปนี้ . 1. จำนวนอัตรากำลังพลของกระทรวงกลาโหมเป็นข้อมูลที่กำหนดชั้นความลับ ‘ลับมาก’ โดยเฉพาะอัตรากำลังพลชั้นยศสูง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคง รวมทั้งต้องปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ. 2544 ซึ่งกำหนดให้หน่วยต้องรักษาข้อมูลข่าวสารลับให้ปลอดภัย โดยข้อมูลข่าวสาร ‘ลับมาก’ หากเปิดเผยทั้งหมดหรือบางส่วนจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์แห่งรัฐอย่างร้ายแรง . 2. กระทรวงกลาโหมดำเนินการปรับลดนายทหารชั้นนายพลตามแผนการปรับลดอัตรากำลังพลตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ผู้ทรงคุณวุฒิ และนายทหารปฏิบัติการ อย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดแล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2573 ปัจจุบันดำเนินการปรับลดนายทหารชั้นนายพลไปแล้วจำนวน 330 อัตรา และกำหนดปรับลดระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2571 อีกจำนวน 70 อัตรา . ทั้งนี้ จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส. ฉะเชิงเทรา พรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการฯ โพสต์ภาพหนังสือตอบกลับดังกล่าว พร้อมระบุว่า นี่คือหนังสือตอบกลับล่าสุด หลังกรรมาธิการฯ ขอทราบจำนวนนายพลไทยในปัจจุบันแบบแยกยศและเหล่าทัพ ก่อนหน้านี้จำนวนกำลังพลไม่เคยเป็นเรื่องลับ วันนี้กองทัพใช้วิธีกำหนดให้เป็นความลับมากเพื่อหนีการตรวจสอบ เป็นความลับจากใคร คำตอบคือประชาชนคนจ่ายภาษี . “การรู้จำนวนนายพลไม่มีผลกับความมั่นคงของประเทศอยู่แล้ว แต่อาจจะมีผลกับความมั่นคงของนายทหารบางคนเท่านั้น หากประชาชนยังไม่รู้ว่าปัจจุบันมีนายพลอยู่เท่าไร การบอกว่ามีแผนจะลดนายพลก็เป็นแค่เพียงการเล่นละครตบตาประชาชน ไม่ได้มีความหมายอะไรทั้งสิ้น” จิรัฏฐ์ระบุ . แฟ้มภาพ: ฐานิส สุดโต . #TheStandardNews

รูปสวยเลยอยากคุมโทน